เสียงดังในหูTinnitus
อัพเดทล่าสุด: 6 ก.ย. 2025
366 ผู้เข้าชม

เสียงดังในหูอาการที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ!
คุณเคยได้ยินเสียง จิ้งหรีด หรือ หึ่งๆ ซ่าๆ อยู่ในหูไหม?
ทั้งที่รอบตัวเงียบสนิท... แต่มันดังอยู่ในหูเราเพียงคนเดียว?
อาการนี้เรียกว่า "เสียงดังในหู" (Tinnitus)
บางรายแค่รำคาญนอนไม่หลับ
แต่บางราย...อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงก็ได้!
การจำแนกประเภทของเสียงดังในหู (Tinnitus Classification)
โดยทั่วไป เสียงดังในหูสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1. Subjective Tinnitus (เสียงดังในหูชนิดที่ผู้ป่วยได้ยินคนเดียว)
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
ลักษณะอาการ คือ ผู้ป่วยเป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ยินเสียงดังในหู บุคคลอื่นไม่สามารถตรวจพบได้
กลไกมักเกิดจากความผิดปกติของระบบการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็น หูชั้นใน (cochlea), ประสาทหู (auditory nerve), หรือการประมวลผลเสียงในสมอง (central auditory pathway)
สาเหตุที่พบได้บ่อย:
การสูญเสียการได้ยินจากอายุ (presbycusis)
ขี้หูอุดตัน
การสัมผัสเสียงดังเรื้อรัง (noise-induced hearing loss)
ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด (เช่น aminoglycosides, aspirin, loop diuretics, platinum-based chemotherapy)
แรงดันเปลี่ยน เช่น ดำน้ำลึก-ขึ้นที่สูง
โรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง
โรคเฉพาะทางหู เช่น Ménières disease หรือภาวะ acoustic neuroma
แก้วหูทะลุ
2. Objective Tinnitus (เสียงดังในหูชนิดที่แพทย์ตรวจพบ)
เป็นชนิดที่พบได้น้อยมาก
ลักษณะอาการ คือ เสียงดังในหูที่สามารถตรวจพบได้จริง โดยแพทย์สามารถฟังได้ผ่านการใช้ stethoscope หรือเครื่องมือเฉพาะ
กลไกที่เกี่ยวข้องเกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงทางกายภาพภายในร่างกาย เช่น การไหลเวียนของเลือดหรือการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
สาเหตุที่พบได้บ่อย:
ความผิดปกติของหลอดเลือด (vascular anomalies) เช่น arteriovenous malformation, carotid stenosis, aneurysm
ภาวะที่ทำให้เกิดเสียงร่วมจังหวะกับชีพจร (pulsatile tinnitus)
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณหูชั้นกลางหดตัวผิดจังหวะ (tensor tympani หรือ stapedius muscle spasm)
ความผิดปกติของโครงสร้างในกะโหลกศีรษะหรือหูชั้นกลาง
คุณเคยได้ยินเสียง จิ้งหรีด หรือ หึ่งๆ ซ่าๆ อยู่ในหูไหม?
ทั้งที่รอบตัวเงียบสนิท... แต่มันดังอยู่ในหูเราเพียงคนเดียว?
อาการนี้เรียกว่า "เสียงดังในหู" (Tinnitus)
บางรายแค่รำคาญนอนไม่หลับ
แต่บางราย...อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงก็ได้!
การจำแนกประเภทของเสียงดังในหู (Tinnitus Classification)
โดยทั่วไป เสียงดังในหูสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่
1. Subjective Tinnitus (เสียงดังในหูชนิดที่ผู้ป่วยได้ยินคนเดียว)
เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด
ลักษณะอาการ คือ ผู้ป่วยเป็นเพียงผู้เดียวที่ได้ยินเสียงดังในหู บุคคลอื่นไม่สามารถตรวจพบได้
กลไกมักเกิดจากความผิดปกติของระบบการได้ยิน ไม่ว่าจะเป็น หูชั้นใน (cochlea), ประสาทหู (auditory nerve), หรือการประมวลผลเสียงในสมอง (central auditory pathway)
สาเหตุที่พบได้บ่อย:
การสูญเสียการได้ยินจากอายุ (presbycusis)
ขี้หูอุดตัน
การสัมผัสเสียงดังเรื้อรัง (noise-induced hearing loss)
ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด (เช่น aminoglycosides, aspirin, loop diuretics, platinum-based chemotherapy)
แรงดันเปลี่ยน เช่น ดำน้ำลึก-ขึ้นที่สูง
โรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ภาวะไขมันในเลือดสูง
โรคเฉพาะทางหู เช่น Ménières disease หรือภาวะ acoustic neuroma
แก้วหูทะลุ
2. Objective Tinnitus (เสียงดังในหูชนิดที่แพทย์ตรวจพบ)
เป็นชนิดที่พบได้น้อยมาก
ลักษณะอาการ คือ เสียงดังในหูที่สามารถตรวจพบได้จริง โดยแพทย์สามารถฟังได้ผ่านการใช้ stethoscope หรือเครื่องมือเฉพาะ
กลไกที่เกี่ยวข้องเกิดจากแหล่งกำเนิดเสียงทางกายภาพภายในร่างกาย เช่น การไหลเวียนของเลือดหรือการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ
สาเหตุที่พบได้บ่อย:
ความผิดปกติของหลอดเลือด (vascular anomalies) เช่น arteriovenous malformation, carotid stenosis, aneurysm
ภาวะที่ทำให้เกิดเสียงร่วมจังหวะกับชีพจร (pulsatile tinnitus)
ความผิดปกติของกล้ามเนื้อบริเวณหูชั้นกลางหดตัวผิดจังหวะ (tensor tympani หรือ stapedius muscle spasm)
ความผิดปกติของโครงสร้างในกะโหลกศีรษะหรือหูชั้นกลาง
บทความที่เกี่ยวข้อง
โรคติดเชื้อ Streptococcus suis เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้ในผู้ที่บริโภคเนื้อหมูดิบหรือสัมผัสกับหมูโดยไม่มีการป้องกัน โรคนี้ไม่เพียงทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือการติดเชื้อในกระแสเลือดเท่านั้น แต่ยังอาจทำให้สูญเสียการได้ยินอย่างถาวรได้ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องพึ่งพาเครื่องช่วยฟังในภายหลัง
โรคน้ำในหูไม่เท่ากัน หรือ Menieres disease เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของ หูชั้นใน ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการได้ยินและการทรงตัว สาเหตุสำคัญคือมีการสะสมของน้ำในหูชั้นในมากเกินไป (Endolymphatic hydrops) ทำให้ความดันในโพรงหูผิดปกติ ส่งผลให้เกิดความบกพร่องทั้งด้านการได้ยินและการทรงตัว โดยโรคนี้มักเกิดกับผู้ใหญ่อายุ 2050 ปี และพบได้ทั้งในเพศชายและหญิง
โรคหูน้ำหนวก คือโรคที่เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในหูชั้นกลาง ทำให้มีหนองหรือน้ำไหลออกจากหูเป็น ๆ หาย ๆ มักเกิดจากแก้วหูที่ทะลุถาวร พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้การได้ยินลดลงถาวร หรือเกิดการติดเชื้อลุกลามได้


